ดูให้ชัด! เหล็กข้ออ้อย SD40s และ SD50 จากทาทา มีดียังไง?

เหล็กเส้นก่อสร้าง คือ เหล็กที่สำคัญมากที่สุดในกระบวนการก่อสร้างอาคาร เพราะโครงสร้างอาคารก็เปรียบเสมือนกระดูกแกนกลางของร่างกายมนุษย์ ที่ทำหน้าที่ค้ำจุนและป้องกันอันตรายให้แก่อวัยวะต่างๆ เช่นเดียวกันกับเหล็กเส้น ที่เป็นส่วนช่วยให้อาคารมีความแข็งแรงและรองรับแรงดึงได้ดีขึ้น ยิ่งอาคารสามารถรับพลังงานได้มากเท่าไหร่ ย่อมหมายถึงความสามารถในการต้านทานต่อแรงสั่นสะเทือนภายนอกได้ดีมากเท่านั้น

ในบทความนี้เราจะกล่าวถึง เหล็กข้ออ้อย SD40S และ SD50 จาก TATA TISCON ซึ่งทั้งสองผลิตภัณฑ์ มีจุดเด่นด้านความแข็งแรงและมีความเหนียวเป็นพิเศษครับ

เหล็กเส้นข้ออ้อย SD40S หรือ Seismic Bar เหล็กเส้นต้านแรงสั่นสะเทือนจากภายนอก เป็นเหล็กข้ออ้อยเกรดพิเศษ Super Ductile เกิดจากการนำความรู้และทดลองจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของ TATA TISCON มาพัฒนาเหล็ก SD40 ให้สามารถดูดซับพลังงานภายนอกได้ดีกว่าเหล็กเส้นข้ออ้อยเกรดปกติ

SD40S มีเนื้อเหล็กเหนียวกว่าเหล็กเส้นทั่วไป 20% จึงดัดง่ายกว่า และมีการยืดตัวดีกว่า โดยอาคารที่ใช้โครงสร้างอาคารจาก SD40S จะยืดตัวได้มากกว่าโครงสร้างเหล็กทั่วไป 15% และแน่นอนที่สุดว่าเพราะเป็นเหล็กเหนียวพิเศษ จึงสามารถรับพลังงานที่จะทำให้โครงสร้างพังทลายได้มากกว่าเหล็กทั่วไปถึง 25% เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่สุ่มเสี่ยง เช่น บริเวณที่มักจะเกิดแผ่นดินไหว หรือน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งการใช้เหล็ก SD40S เป็นโครงสร้างอาคารจะช่วยลดปัญหาตึกพังทลายและเพิ่มความปลอดภัยของโครงสร้างอาคารได้

ส่วนเหล็กเส้นข้ออ้อย SD50 จาก TATA TISCON เป็นเหล็กที่รับแรงดึงจุดครากได้ไม่น้อยกว่า 5,000 ksc ซึ่งคุณสมบัติที่ตามมาคือ สามารถรับแรงดึงได้มากกว่าเหล็ก SD30 และ SD40 ซึ่ง SD50 จะผ่านกระบวนการ EAF ทำให้เหล็กมีความสะอาดเป็นเนื้อเดียวกัน มีความแข็งแกร่ง คุณภาพเท่ากันทุกเส้น อีกทั้งยังผ่านกระบวนการ Thermo Mechanical Treatment ทำให้เหล็กสามารถดัดโค้งงอในวงแคบ และปริแตกได้ยาก

การเลือกใช้เหล็ก SD50 จะช่วยประหยัดการใช้เหล็กในโครงการได้มากถึง 15% - 22% เช่น ถ้าใช้เหล็กเส้น SD50 แทน SD40 ในงานประเภทเสาเข็มเจาะและเสา จะลดการใช้เหล็กได้ถึง 22% หรือในงานประเภทฐานราก จะลดการใช้เหล็กได้ 20% เลยทีเดียว นอกจากประสิทธิภาพและความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้นแล้ว เหล็ก SD50 ยังช่วยลดปริมาณการใช้เหล็กในโครงสร้างและลดต้นทุนในโครงการได้อีกด้วย อาทิ ลดค่าขนส่ง ค่าแรงงาน และค่าพื้นที่จัดเก็บ เพราะเมื่อเลือกใช้เหล็ก SD50 จะลดปริมาณการใช้เหล็กเส้นลงได้นั่นเองครับ

จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ มีลักษณะการใช้งานและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน โดย SD40S เหมาะสำหรับโครงการที่ต้องการความปลอดภัย ความยืดหยุ่นสูง หรือที่ตั้งอาคารอยู่ในบริเวณสุ่มเสี่ยงต่อแผ่นดินไหวหรืออุทกภัยต่างๆ ทางด้านของเหล็ก SD50 เหมาะสำหรับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น ทางด่วน ตึกสูง หรืออาคารขนาดใหญ่ที่ต้องการความแข็งแรง สามารถรับน้ำหนักได้เยอะ และต้องการความปลอดภัยสูงนั่นเองครับ

สอบถามข้อมูล และติดต่อแบรนด์ได้ที่ TATA TISCON call center: 02-315-7550

Email: tatatiscon.th@gmail.com, FB: TataTisconTH, Line@: @tiscon

#Wazzadu #TATASteel #TATATiscon #Steel #เหล็ก #เหล็กโครงสร้าง

#SD50 #Rebar #เหล็กข้ออ้อย #Stirrup #เหล็กเต็ม #เหล็กมอก #เหล็กปลอก