เลือกเหล็กเส้นข้ออ้อยคุณภาพ ดูจากอะไรได้บ้าง?
การเลือกเหล็กเส้นข้ออ้อยใครว่าเป็นเรื่องกล้วยๆ ?
รู้หรือไม่หากเลือกใช้เหล็กเส้นที่ไม่มีคุณภาพหรือไม่ผ่านมาตรฐานแล้วละก็ จะส่งผลโดยตรงต่อโครงสร้างอาคารและความแข็งแรงของอาคารนั้นๆ ได้เลยครับ เราจึงอยากแนะนำวิธีการเลือกใช้เหล็กเส้นข้ออ้อยคุณภาพดีง่ายๆ ให้ผู้อ่านได้ลองศึกษา เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเลือกซื้อเหล็กเส้นข้ออ้อยสำหรับโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นกันครับ
เหล็กข้ออ้อยที่ดีควรผลิตจากเตา EF
ประเทศทางฝั่งยุโรป ญี่ปุ่น อเมริกา อังกฤษ อินเดีย จีน หรือออสเตรเลีย ฯลฯ ต่างใช้เตา EF ในการผลิตเหล็กเส้น เพราะจะได้เหล็กเส้นคุณภาพดี เนื้อเหล็กสม่ำเสมอ และกระบวนการ EF ยังสามารถกำจัดสารมลทินและสิ่งเจือปนออกจากตัวเหล็กได้ ทำให้เหล็กสะอาดเหมือนใหม่ เพราะการที่เหล็กมีสารมลทินจำนวนมาก ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เหล็กไม่แข็งแรง แตกหักได้ง่ายเช่นกัน นอกจากนี้ เตา EF ยังสามารถควบคุมส่วนประกอบทางเคมีได้อย่างแม่นยำ เหล็กที่ได้จึงมีคุณภาพสูง แข็งแกร่งเหมาะกับงานก่อสร้าง พร้อมทั้งส่งผ่านแรงได้ดี ดังนั้น เหล็กข้ออ้อยที่เลือกใช้จึงควรผลิตจากเตา EF นั่นเองครับ
ทำความรู้จักกับกำลังรับแรงดึงที่จุดคราก
SD30 SD40 SD40S SD50 และ SD50S ค่าที่ต่างกันนี้ คือ กำลังรับแรงดึงที่จุดครากในปริมาณต่างกัน กล่าวคือเหล็กข้ออ้อยจะมีกำลังรับแรงดึงที่จุดครากไม่น้อยกว่า 3,000 ksc, 4,000 ksc และ 5,000 ksc ในการใช้งานเหล็ก SD30 SD40 SD40S SD50 และ SD50S ตามลำดับ ในบางครั้ง หากเลือกใช้เหล็กที่มีกำลังรับแรงดึงที่จุดครากสูง ก็สามารถประหยัดจำนวนเหล็กและต้นทุนในการก่อสร้างได้ด้วย ทั้งนี้ ผู้ที่มีหน้าที่คำนวณว่าอาคารประเภทนี้ ควรใช้เหล็กเส้นประเภทใด ก็คือ วิศวกรโยธานั่นเองครับ
ผ่านมอก. รับรองความปลอดภัย
และแน่นอนที่สุดว่าเหล็กเส้นข้ออ้อยจะต้องผ่านมาตรฐานเหล็กเส้นฉบับใหม่ พ.ศ. 2559 จากมอก. 24-2548 เป็นมอก.24-2559 นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถสังเกตเหล็กเส้นที่ดีได้จากการตรวจสอบด้วยสายตาคร่าวๆ โดยเริ่มจากมองหาป้ายสินค้าที่แสดงรายละเอียดสินค้า เช่น ชื่อผู้ผลิต ชนิด ขนาดความยาว และเครื่องหมายมอก. หรือในกรณีที่ป้ายสินค้าหลุดออก ก็สามารถสังเกตจากบนเนื้อเหล็กได้เช่นเดียวกัน ขั้นตอนต่อมา คือ สังเกตผิวเหล็ก โดยผิวเหล็กที่ดีจะมีบั้ง นูนสูงสม่ำเสมอตลอดทั้งเส้น และเมื่อดัดโค้ง งอ ต้องไม่ปริแตกและหักง่าย
หรือในบางครั้งสถาปนิก ผู้รับเหมา และเจ้าของโครงการก็จะเลือกใช้เหล็กเส้นจากแบรนด์สินค้าคุณภาพ เช่น TATA TISCON ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิต โครงการอาคารขนาดใหญ่เลือกใช้ และยังมีประสบการณ์ในวงการเหล็กเส้นมาอย่างยาวนาน ซึ่งการเลือกใช้สินค้าจากแบรนด์คุณภาพ ก็ทำให้ผู้ใช้งานเกิดความรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยในการใช้สินค้าได้ครับ
รายละเอียดสินค้า
แบรนด์: TATA Tiscon
ผลิตภัณฑ์: เหล็กเส้นข้ออ้อย
ขนาด: SD40,SD50 : DB8*,DB10*,DB12,DB16,DB20,DB22*,DB25,DB28,DB32,DB36*,DB40*
SD40S, SD50S* : DB10,DB12,DB16,DB20,DB25,DB28,DB32,DB40
*สินค้าสั่งผลิตเท่านั้น
คุณสมบัติ:
- เหล็ก SD50 กำลังแรงมากกว่าเหล็ก SD40 ทั่วไป จึงช่วยลดปริมาณเหล็กเสริมในโครงสร้างมากกว่า 20%
- เหล็ก SD40S, SD50S รับพลังงานจากแผ่นดินไหวได้มากกว่า เพิ่มความมั่นใจด้านความปลอดภัยกับผู้อยู่อาศัย
ลักษณะการใช้งาน: ใช้ได้กับการก่อสร้างทุกประเภท
ตัวอย่างสินค้าเทียบเคียง
สอบถามข้อมูล และติดต่อแบรนด์ได้ที่ TATA TISCON call center: 02-315-7550
Email: tatatiscon.th@gmail.com, FB: TataTisconTH, Line@: @tiscon
#Wazzadu #TATASteel #TATATiscon #Steel #เหล็ก #เหล็กโครงสร้าง
#SD50 #Rebar #เหล็กข้ออ้อย #Stirrup #เหล็กเต็ม #เหล็กมอก #เหล็กปลอก
ผู้เขียนบทความ
ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 50 ปีเป็นโรงงานผลิตเหล็กที่จัดตั้งยาวนานที่สุดพร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญในการผลิต และยังได้รับความไว้วางใจในโปรเจคที่มีชื่อเสียง รวมถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ไอคอนสยาม และรถไฟฟ้าสายต่างๆ
โทรศัพท์ 02-937-1000
โทรสาร 02-937-1646-47 ... อ่านเพิ่มเติม