เรื่องแค่นี้เหล็กๆ : เรื่องเหล็กจะเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่วางใจใช้  TATA TISCON

TATA TISCON (ทาทา ทิสคอน) ผู้ผลิตเหล็กชั้นนำของเอเชียที่มีทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาตลอดเวลาโดยจะได้รับ Feed back ภายใน 24 ชั่วโมง ด้วยความมุ่งมั่นในการบริการที่เป็นกันเองนี้ TATA TISCON จึงถือคติที่ว่า "เรื่องเหล็กจะต้องเป็นเรื่องเล็กเข้าใจง่าย และสะดวกในการใช้งาน"

TATA TISCON ให้บริการงานเหล็กเส้นครบทุกประเภทโดยแบ่งเป็นสองหมวด ดังนี้ 

เหล็กเส้น

1. เหล็กเส้นกลม ใช้ทำปลอกเสา ปลอกคาน หรือ งานยึดโครงป้ายขนาดใหญ่ ไม่เน้นการยึดเกาะกับคอนกรีต
2. เหล็กเส้นข้ออ้อย เกรด SD40 และ SD50* ใช้กับโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กเพื่อช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะกับเนื้อคอนกรีต ยิ่งบั้งสูงยิ่งยึดเกาะได้มาก
3. เหล็กเหนียวพิเศษ SD40S และ SD50S ซุปเปอร์ดั๊กไทล์ หรือทางภาคเหนือจะรู้จักกันในชื่อ เหล็กต้านแผ่นดินไหว ซึ่งคือเหล็กเส้นข้ออ้อยที่มีค่าความยืดที่จุดรับแรงสูงสุดมีมากขึ้น เป็นการเพิ่มความสามารถในการดูดซับพลังงานจากภายนอกได้มากกว่าเหล็กทั่วไป
4. Cut & Bend เป็นบริการที่นำเหล็กเส้นก่อสร้างมาตัดและดัด ขึ้นรูปตามความต้องการของผู้ใช้งาน
5. เหล็กลวดคาร์บอนต่ำ ใช้ในการผลิต ลวดผูกเหล็ก ลวดเหล็ก ลวดตาข่ย ลวดหนาม ลวดชุบสังกะสี
6. เหล็กลวดคาร์บอนสูง ใช้ในการผลิต สปริง ลวดอัดแรง ลวดสลิง ลวดเสริมยางรถยนต์
7. เหล็กเพลาดำ เหล็กคุณภาพสูงที่ผ่านกระบวนการรีดร้อน มีรูปร่างกลม ใช้สำหรับการผลิตเหล็กเพลาขาว หรือชิ้นส่วนและอะไหล่เครื่องจักรกลทางการเกษตร 

เหล็กโครงสร้างรูปพรรณขึ้นรูป 

1. เหล็กฉาก เหมาะสำหรับงานประเภท เสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เสาสื่อสารโทรคมนาคม ป้ายโฆษณา หรือโครงสร้างอาคารประเภทโรงงาน
2. เหล็กรางน้ำ เหมาะสำหรับงานประเภท ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ งานโครงสร้างทั่วไป

*ในอดีตประเทศไทยนิยมใช้เหล็กข้ออ้อย SD30 เป็นหลัก ต่อมาได้เริ่มมีการเปลี่ยนมาใช้เหล็ก SD40 และ SD50 มากขึ้น และในไม่ช้านี้ TATA TISCON ผู้นำด้านวงการเหล็กก็จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ เหล็กข้ออ้อย SD60 ด้วยคุณสมบัติสูงกว่า เนื่องจากกำลังของเหล็กที่สูงขึ้นนี้ช่วยลดปริมาณการใช้เหล็กลงได้ ส่งผลให้การรก่อสร้างสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยรวมได้อีกด้วย!!!

วิธีการเลือกใช้เหล็กเส้น มีดังนี้

• ต้องมีมาตรฐาน มอก. รับรองคุณภาพ

1. เหล็กเส้นกลมใช้มาตรฐาน มอก. 20-2559
2. เหล็กข้ออ้อยใช้มาตรฐาน มอก. 24-2559

• เหล็กเส้นทุกขนาดต้องมีความยาวไม่น้อยกว่า 10 เมตร 
• เส้นผ่านศูนย์กลางถูกต้องตามขนาดที่กำหนดไว้ เช่น เหล็กเส้นกลม 6 มม. (2หุน) วัดหน้าตัดแล้วต้องได้ 6 มม. โดยมีค่าคลาดเคลื่อนไม่เกินตามที่กำหนดใน มอก. ห้ามน้อยกว่านี้เด็ดขาด
• หากตัดเหล็กมา 1 เมตร แล้วนำไปชั่งน้ำหนัก จะต้องได้น้ำหนักตามที่กำหนดไว้ เช่น เหล็กเส้นกลม 9 มม. จะต้องชั่งได้น้ำหนัก 0.499 กิโลกรัม
• เหล็กข้ออ้อยตรวจสอบขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางด้วยวิธีชั่งน้ำหนัก โดยตัดเหล็กมา 1 เมตร แล้วนำไปชั่งน้ำหนัก จะต้องได้น้ำหนักตามที่กำหนดไว้ เช่น เหล็กเส้นกลม 9 มม.ข้ออ้อย 12 มม. จะต้องชั่งได้น้ำหนัก 0.4990.888 กิโลกรัม โดยมีค่าคลาดเคลื่อนไม่เกินตามที่กำหนดใน มอก.
• เหล็กเส้นกลม ต้องมีผิวเรียบเกลี้ยง หน้าตัดกลม ไม่มีรอยปริแตก 
• เหล็กเส้นข้ออ้อย ต้องมีบั้งสูงเด่นชัด และมีระยะเท่ากันสม่ำเสมอตลอดเส้น

การเลือกใช้วัสดุเพื่อให้งานก่อสร้างที่ดีมีมาตรฐานนั้นทำได้ไม่ยากแต่ต้องอาศัยความเข้าใจและความใส่ใจ โดยเฉพาะงานเหล็กเส้นที่แม้เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นแต่ก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยให้อาคารสถาปัตยกรรมและหรือระบบสาธารณูปโภคที่สำคัญต่างๆ เสร็จสมบูรณ์ได้อย่างมีคุณภาพ มั่นคงปลอดภัยกับผู้ใช้งาน 

เหล็กเล็กๆที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ยิ่งใหญ่ของ TATA TISCON ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่สำคัญมากมาย เช่น

1. อาคารรัฐสภาใหม่
2. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2
3. ไอคอนสยาม (ICONSIAM)
4. โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม
5. โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง บางปะอิน-นครราชสีมา
6. โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
7. โครงการโรงไฟฟ้าพลังลม ชัยภูมิ-มุกดาหาร
8. คอนโดต้านแผ่นดินไหว เช่น OKA Haus Condo, Keen Condo Sriracha, The Nine Condo และ The Nimman Condominium

สอบถามข้อมูล และติดต่อแบรนด์ได้ที่ TATA TISCON call center: 02-315-7550

Email: tatatiscon.th@gmail.com, FB: TataTisconTH, Line@: @tiscon

#Wazzadu #TATASteel #TATATiscon #Steel #เหล็ก #เหล็กโครงสร้าง

#SD50 #Rebar #เหล็กข้ออ้อย #Stirrup #เหล็กเต็ม #เหล็กมอก #เหล็กปลอก