+ ทำไมปลั๊กต้องมี 3 ขา? +

รู้ไว้แล้ว Smart วันนี้เอาความรู้ดีๆมาให้ดู
เคยสงสัยไหมว่า ทำไมอุปกรณ์ไฟฟ้าเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไป
เมื่อก่อนจะมีแค่ 2 ขา หรือที่เรียกว่า 2-pole plug 
สำหรับ เต้าเสียบ 2 ขา แต่ตอนนี้ปลั๊กจะมี 3 ขา 
หรือ 3-pole plug แทน
.
เต้าเสียบในบ้านที่มีรูเสียบแค่ 2 ขา ก็เลยต้องวิ่งหา
ตัวแปลงปลั๊กพวก universal มาเปลี่ยนกันอีก
ของแบบนี้มีคำตอบ
.
วันนี้ Rumos เอามาให้ชมกัน....
.
ปกติแล้วแต่เดิมนั้น ปลั๊กมีแค่เพียง 2 ขาเท่านั้น
ขาที่ 3 ที่เพิ่มขึ้นมาภายหลังคือสายดิน หรือที่เรียกว่า Ground Wire หรือ Earth Wire ซึ่งช่วยป้องกันกระแสไฟฟ้าที่ไม่คงที่ได้
หากเกิดไฟฟ้ากระชากขึ้นมา ก็จะลดโอกาสที่จะทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหาย
.
แต่นอกเหนือจากนั้น ในระบบปลั๊ก 2 ขาแบบเดิมๆที่เราเห็นกัน 
สมัยก่อนก็ใช้งานได้ดีเนื่องจากอุปกรณ์ไฟฟ้านั้น ไม่ได้มีกำลังสูงแบบปัจจุบัน ดังนั้นการใช้งานอุปกรณ์ที่มีกำลังสูงไม่ถึง 500W นั้น ก็ยังสามารถใช้งานได้ปกติ ใช้ปลั๊กแบบ 2 ขาได้ เพราะต้นทุนผลิตนั้น ถูกกว่า
.
แต่หากอุปกรณ์นั้นมีกำลังไฟฟ้าสูง ตัวปลั๊กแบบเดิมๆ บางๆ จะทนความร้อนที่เกิดจากการไหลผ่านกระแสไฟฟ้าไม่ได้ดีนัก การใช้ปลั๊กที่มีขาหนาขึ้นและมี ขาที่สาม ก็ช่วยให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้นในการใช้อุปกรณ์นั้นๆ ซึ่งก็มีมาตั้งแต่ปี 1930 โน่น
.
หลังจากนั้น ปลั๊กและเต้าเสียบในโลกก็ค่อยๆทยอยเปลี่ยนเป็นแบบ3ขามาเรื่อยๆ ดังนั้นสำหรับ บ้านที่มีอายุ มีเต้าเสียบเพียง 2 ขา การปรับปรุงให้รองรับ ปลั๊ก 3 ขานั้นเป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อความปลอดภัยกับสมาชิกครอบครัว 
.
การที่เลือกจะหักขาที่ 3 ของ ปลั๊กทิ้งเพียงเพื่อให้เสียบปลั๊กเดิมได้ หรือใช้ตัวแปลงนั้น ต้องระวังเรื่องไฟกระชากไว้ด้วย
.
รักนะเลยเป็นห่วง❤️
.
เต้าเสียบของ RUMOS นอกจากจะรองรับ ปลั๊กได้ทั้งแบบ 2 ขา และ 3 ขา แล้ว ยังสามารถรับ ปลั๊กได้หลากหลายประเภท 
แถมด้วยม่านนิรภัยเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็กเล็ก
หน้ากระจกนิรภัยทนทานพิเศษ หรูหราสำหรับบ้านทุกดีไซน์นะ
.
กล้าต่างอย่างฉลาด